
So What เป็นบทเพลงแจ๊ซที่มีความโดดเด่นอย่างมากในวงการดนตรี ด้วยเสียงเมโลดีที่ไพเราะและความลึกลับของคอร์ด ตัวบทเพลงเองก็เป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Miles Davis นักทรัมเป็ตระดับตำนาน และถือเป็นตัวแทนของยุค Hard Bop
So What ถูกแต่งขึ้นในปี ค.ศ. 1958 และถูกบันทึกเสียงครั้งแรกในอัลบั้ม Kind of Blue ซึ่งเป็นอัลบั้มแจ๊ซที่ขายดีที่สุดตลอดกาล
Miles Davis: บิดาแห่งดนตรีแจ๊ซสมัยใหม่
Miles Davis เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของดนตรีแจ๊ซ เขาเป็นนักทรัมเป็ต นักแต่งเพลง และหัวหน้าวงดนตรีที่มีอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อแนวทางดนตรีแจ๊ซตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1940 จนถึงยุค 1990s
Davis มีชื่อเสียงในเรื่องความสามารถในการปรับตัวและการทดลองกับแนวคิดใหม่ๆ ในดนตรีแจ๊ซ เขาได้นำแนวคิดของ Modal Jazz (แจ๊ซแบบโมดอล) มาใช้ใน So What ซึ่งเป็นการหันเหจากรูปแบบ Chord Progression แบบดั้งเดิมไปสู่การเน้นระดับเสียงหรือ “Mode”
Miles Davis ได้รับรางวัลและเกียรติยศมากมายตลอดอาชีพของเขา รวมถึงรางวัล Grammy 8 รางวัล และการถูก enshrine ใน Rock and Roll Hall of Fame
Modal Jazz: การปฏิวัติในดนตรีแจ๊ซ
Modal Jazz เป็นแนวทางดนตรีแจ๊ซที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษ 1950s และ 1960s โดยมี Miles Davis เป็นผู้นำในการพัฒนาแนวคิดนี้
Modal Jazz แตกต่างจากรูปแบบของ Bebop (แบ็ป) หรือ Hard Bop (ฮาร์ดบ็อป) ที่เน้น Chord Progression ที่ซับซ้อน Modal Jazz จะใช้ “Modes” ซึ่งเป็นกลุ่มของโน้ตที่เกี่ยวข้องกันโดยมีโทนและอารมณ์เฉพาะ
การใช้ Modes แทน Chord Progression ช่วยให้ So What สร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างและลึกลับมากขึ้น นักดนตรีสามารถ improvisation (即興演奏) ได้อย่างอิสระมากขึ้นโดยไม่ถูกจำกัดด้วยรูปแบบ chord progression ที่แน่นอน
องค์ประกอบของ So What:
-
Melody: เมโลดีของ So What เป็นการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายและความซับซ้อน มันเป็นธีมที่น่าจดจำ และสามารถร้องตามได้ เมโลดีนี้ถูกเล่นในรูปแบบ call-and-response ระหว่างนักทรัมเป็ต (Miles Davis) กับนัก萨克斯 (Cannonball Adderley, John Coltrane)
-
Harmony: So What ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ “Modal Harmony” ซึ่งแตกต่างจาก Chord Progression แบบดั้งเดิม
บทเพลงนี้ใช้ 2 Mode: Dorian mode และ Phrygian mode ซึ่งสร้างอารมณ์ที่ผ่อนคลายและลึกลับ
-
Rhythm: Rhythmic Groove ของ So What เป็นแบบ swing (สวิง) มันชวนให้เท้าของคุณไหวตามไปอย่างไม่รู้ตัว
นักดนตรีใน So What:
So What มอบเวทีให้กับกลุ่มนักดนตรีแจ๊ซชั้นนำของยุคนั้น:
-
Miles Davis: นักทรัมเป็ตผู้ยิ่งใหญ่
-
John Coltrane: นัก萨โฟน tenor ที่มีชื่อเสียงในวงการ
-
Cannonball Adderley: นัก saxophone alto (แซ็กโซโฟนออลโต) ที่เป็นที่รู้จักในความสามารถ improvisation
-
Paul Chambers: นักเบสที่มีความเชี่ยวชาญ
-
Jimmy Cobb: นักกลองผู้ให้จังหวะ swing
อิทธิพลของ So What:
So What เป็นบทเพลงแจ๊ซที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้นักดนตรีแจ๊ซรุ่นต่อมา มันได้ช่วยเปิดศักยภาพใหม่ๆ ในการ improvisation (即興演奏) และการใช้ Modal Harmony
การฟัง So What:
การฟัง So What เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า เสียงเมโลดีที่ไพเราะ คอร์ดที่ลึกลับ และความสามารถในการ improvisation ของนักดนตรีทำให้ So What เป็นบทเพลงแจ๊ซที่ควรค่าแก่การฟังและศึกษา.